บทความ
ก.ย. 02, 2025
เล่นกอล์ฟเป็นประจำ แค่ทากันแดดพอไหม?
เล่นกอล์ฟเป็นประจำ แค่ทากันแดดพอไหม?
ในแวดวงกีฬากลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลาหลายชั่วโมง “กอล์ฟ” คือหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของผู้หญิงยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัย 30–60 ปี ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องสุขภาพ การเข้าสังคม และภาพลักษณ์ภายนอก แต่คำถามสำคัญที่หลายคนอาจยังตอบตัวเองไม่ได้คือ...แค่ทาครีมกันแดดก่อนออกรอบทุกครั้ง เพียงพอแล้วหรือยัง?
แม้กันแดดจะเป็นเกราะด่านแรกที่เราคุ้นเคยกันมานาน แต่งานวิจัยและประสบการณ์จากคลินิกผิวหนังชี้ว่า “การป้องกันแสงแดด” ต้องเป็นมากกว่านั้น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำเช่นการเล่นกอล์ฟ ซึ่งต้องเข้าใจธรรมชาติของแสงแดด ผลกระทบเชิงลึกต่อผิว และแนวทางดูแลผิวในระยะยาวให้ตรงจุด
แสงแดดบนสนามกอล์ฟ ไม่ได้เบากว่าแสงทะเล
หลายคนเข้าใจว่าแค่ไม่ได้อยู่ริมทะเล ก็ไม่น่าจะได้รับรังสี UV รุนแรง แต่ในความเป็นจริง
- สนามกอล์ฟในไทยเปิดโล่ง แสงกระทบพื้นหญ้าและทราย ทำให้เกิดการสะท้อนซ้ำหลายทิศทาง
- ระยะเวลาการอยู่กลางแจ้งต่อเนื่องนานกว่ากิจกรรมอื่น (เฉลี่ย 3–5 ชั่วโมง/รอบ)
- รังสี UV มีทั้ง UVB (ที่ทำให้ผิวไหม้ แดง ลอก) และ UVA (ที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อม ผิวแก่ลงโดยไม่รู้ตัว)
- ต่อให้ไม่มีแดดจ้า แต่รังสี UVA ยังสามารถทะลุเมฆและหมอกลงมาทำร้ายผิวได้เช่นเดิม
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเล่นกอล์ฟทุกสัปดาห์ ร่างกายคุณได้รับรังสี UV ในระดับใกล้เคียงกับคนที่ทำงานริมทะเลทุกวันเลยทีเดียว
กันแดดทำได้แค่ “บางส่วน” แล้วอะไรคือจุดอ่อน?
แม้จะทากันแดดทุกวัน ใช้ SPF 50 PA++++ อย่างเคร่งครัด ก็อาจไม่เพียงพอ เพราะ
- การทากันแดดไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม ข้างจมูก คาง และรอบตา
- ต่อให้ทาดีแค่ไหน เหงื่อก็สามารถทำให้หลุดได้ภายใน 1–2 ชั่วโมง
- คนส่วนใหญ่มัก ไม่เติมกันแดดระหว่างออกรอบ เนื่องจากลำบาก ไม่อยากแต่งหน้าซ้ำ หรือเข้าใจผิดว่าแค่ทาครั้งเดียวก็พอ
- ครีมกันแดดไม่สามารถสะท้อน “Infrared” และ “Blue Light” ซึ่งเป็นคลื่นแสงจากธรรมชาติที่มีผลต่อผิวหนังได้ดีเท่าไหร่
ผลลัพธ์ที่ตามมา คือผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟสม่ำเสมอ มักมีปัญหา
- ผิวหมองลงเรื่อย ๆ แม้จะไม่เคยโดนแดดจนแสบ
- จุดด่างดำ กระ ฝ้า เริ่มชัดขึ้นแม้ดูแลผิวดีแล้ว
- ผิวขาดความยืดหยุ่น อ่อนแอ และมีริ้วรอยเร็วกว่าคนวัยเดียวกัน
อยากผิวสวยแบบระยะยาว ต้องเข้าใจ “วงจรผิวเสียจากแดด”
เมื่อผิวโดนรังสี UV อย่างต่อเนื่อง จะเกิด 3 กลไกสำคัญ
- ผิวชั้นนอกอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดรอยแดง จุดด่างดำ ผิวหมองง่ายขึ้น
- กระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิดปกติ นำไปสู่ปัญหาฝ้าแดด กระลึก ที่รักษายากในระยะยาว
- คอลลาเจนใต้ผิวเสื่อมเร็ว ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ร่องลึก และริ้วรอยก่อนวัย
ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยกันแดดเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะกับคนที่ต้องเล่นกอล์ฟเป็นกิจวัตร
แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะ “เอาอยู่”?
สำหรับผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟประจำ อยากมีผิวหน้าที่กระจ่างใส ไม่แก่ก่อนวัย แพทย์ผิวหนังจะแนะนำแนวทางใน 3 ระดับดังนี้
1. ปรับพฤติกรรมก่อนออกแดด
- ทาครีมกันแดด อย่างน้อย 15 นาที ก่อนออกรอบ
- ใช้ หมวกปีกกว้าง + แขนยาวป้องกันแดด
- หลีกเลี่ยงการออกรอบช่วง 11:00–15:00 น. ถ้าเป็นไปได้
- พกกันแดดแบบสเปรย์หรือคูชั่น สำหรับเติมระหว่างวัน
2. บำรุงลึกหลังเจอแดด
หลังออกรอบ ควรรีเซ็ตผิวด้วยการใช้
- เซรั่มหรือมาสก์บำรุงที่มี Niacinamide, Vitamin C, หรือ Aloe Vera
- ครีมลดการอักเสบ/ปลอบประโลมผิว เพื่อไม่ให้ผิวเสียสะสม
- ควรเลี่ยงการใช้กรดผลไม้หรือสครับในวันเดียวกัน เพราะอาจระคายเคือง
3. เข้ารับการดูแลจากแพทย์ผิวหนัง
หากมีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือเริ่มเห็นผิวหย่อนและหมอง แพทย์อาจแนะนำ:
- โปรแกรม Meso Brightening: เติมสารต้านอนุมูลอิสระลึกถึงผิวชั้นใน ช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็ว
- โปรแกรมเลเซอร์ Q-Switch / PicoSure: ช่วยลดเม็ดสีอย่างเฉพาะเจาะจง
- โปรแกรม Ulthera / Thermage: สำหรับยกกระชับและซ่อมแซมผิวจากแสงแดด
- Skin Booster ด้วยสารกลุ่ม HA + Antioxidant สำหรับคนที่ผิวแห้งเสียจากแดดต่อเนื่อง
โดยไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน แพทย์จะประเมินเป็นรายบุคคล และเลือกให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะของผิวแต่ละคน
สรุป แค่กันแดดยังไม่พอ ต้องดูแลผิวด้านอื่นๆควบคู่กันด้วย
การเล่นกอล์ฟอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผิว ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่า “กันแดดคือพื้นฐาน แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง” และควรดูแลผิวครบทั้งก่อน–ระหว่าง–หลังเล่น ไม่ต่างจากการวอร์มอัพร่างกาย
หากคุณรู้สึกว่าช่วงหลังผิวคล้ำลง เห็นฝ้าจาง ๆ หรือแต่งหน้าไม่ติดเหมือนเมื่อก่อน อาจถึงเวลาที่ควรให้แพทย์ช่วยประเมินอย่างละเอียด เพื่อให้คุณยังคงสนุกกับกอล์ฟได้เต็มที่ โดยไม่ต้องแลกกับผิวที่แก่ก่อนวัย