บทความ

ก.ย. 02, 2025

ฝ้า กระ จุดด่างดำจากสนามกอล์ฟ แก้ยังไงให้เห็นผล?

หลายคนอาจคิดว่าการเล่นกอล์ฟเป็นกิจกรรมที่ดูเบาสบาย ไม่เสี่ยงกับผิวมากนัก แต่ความจริงแล้วสนามกอล์ฟคือหนึ่งในสถานที่ที่ “แดดแรง + แสงสะท้อน” รวมพลังกันทำร้ายผิวได้หนักที่สุด

หลายคนอาจคิดว่าการเล่นกอล์ฟเป็นกิจกรรมที่ดูเบาสบาย ไม่เสี่ยงกับผิวมากนัก แต่ความจริงแล้วสนามกอล์ฟคือหนึ่งในสถานที่ที่ “แดดแรง + แสงสะท้อน” รวมพลังกันทำร้ายผิวได้หนักที่สุด โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เล่นเป็นประจำ จนเกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำสะสมโดยไม่รู้ตัว

ในบทความนี้ แพทย์ผิวหนังจะมาอธิบายว่าแสงแดดในสนามกอล์ฟกระตุ้นปัญหาเม็ดสีได้อย่างไร และมีวิธีไหนบ้างที่สามารถแก้ให้เห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นเวชสำอาง, เลเซอร์, หรือเทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลลึกถึงระดับโครงสร้างผิว

ทำไมผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟบ่อย จึงมีฝ้า กระ จุดด่างดำมากกว่าคนทั่วไป?

การเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดด ไม่ใช่แค่เรื่อง “ตากแดดนาน” แต่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบซับซ้อน เช่น 

  • คลื่นรังสี UV ทั้ง UVA และ UVB
  • รังสี Visible Light (โดยเฉพาะแสงสีฟ้าและแสงฟ้าขาวจากท้องฟ้า)
  • Infrared / ความร้อนจากแดด
  • การสะท้อนจากหญ้าและทรายในสนามกอล์ฟ 

เมื่อรังสีเหล่านี้ตกกระทบผิวซ้ำ ๆ จะกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ผลิตเม็ดสีมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่ “ผิวบาง” เช่น ใต้ตา โหนกแก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปากบน ทำให้เกิดฝ้าแบบที่เรียกว่า melasma ซึ่งรักษายากกว่ากระหรือรอยแดดทั่วไป

ฝ้าแบบไหนที่พบบ่อยในนักกอล์ฟ?

 

ประเภทฝ้า/กระ 

ลักษณะ 

กลไกการเกิด 

ฝ้าตื้น (Epidermal) 

รอยสีน้ำตาลอ่อน ชัดเมื่ออยู่กลางแดด 

เม็ดสีอยู่ชั้นบนของผิว 

ฝ้าลึก (Dermal) 

สีน้ำตาลเทา จางลงยาก 

เม็ดสีฝังลึกลงถึงชั้นหนังแท้ 

กระแดด 

จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้ม มักอยู่โหนกแก้ม 

แดดกระตุ้นเม็ดสีเฉพาะจุด 

จุดด่างดำหลังสิว/แผล 

มักเกิดหลังอักเสบ 

อาการอักเสบสะสม + UV กระตุ้นซ้ำ 

 

ผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟนานหลายปี มักจะมีทั้งฝ้าแบบตื้นและลึกในบริเวณเดียวกัน และปัญหาไม่ได้จบที่เม็ดสีเท่านั้น เพราะ “ผิวโดยรวม” มักเสื่อมโทรมลงด้วย เช่น ผิวบางลง แห้งง่าย เกิดริ้วรอยเร็วขึ้น

แค่ทากันแดดเพียงพอหรือไม่?

การทากันแดดเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ โดยแพทย์แนะนำให้เลือกกันแดดที่ 

  • ค่า SPF 50+ PA++++ ขึ้นไป
  • ป้องกัน รังสี UVA, UVB และ Visible Light (ควรมี Iron Oxide)
  • เนื้อเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะ เพื่อให้ทาได้ซ้ำระหว่างวัน 

แต่ในชีวิตจริง การปกป้อง 100% แทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาหยาดเหงื่อออกระหว่างออกรอบ หรือมีเหงื่อไหลจากหมวกปีกกว้าง การปาดหน้าบ่อย ๆ ก็อาจทำให้กันแดดหลุด

ดังนั้นแม้จะป้องกันดีแค่ไหน เม็ดสีก็ยังสะสมทีละนิด ซึ่งทำให้ผู้หญิงที่เล่นกอล์ฟมานานเริ่มสังเกตว่าหน้าดูหมองลง มีฝ้า กระขึ้นที่แก้ม หน้าผาก และรอบปาก

วิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำให้เห็นผล (และไม่กลับมาอีก)

แพทย์ผิวหนังจะแบ่งการดูแลเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของปัญหาและโครงสร้างผิวแต่ละคน ได้แก่

ระดับ 1: เวชสำอาง + ยาทาเฉพาะจุด 

เหมาะกับฝ้าตื้น กระจาง ๆ จุดด่างดำใหม่ ๆ หรือใช้เป็นการ “คุมปัญหาไม่ให้ลุกลาม” ในผู้ที่เริ่มมีแนวโน้มเป็นฝ้า 

กลุ่มยาหลักที่แพทย์แนะนำ 

  • Vitamin C เข้มข้น → ยับยั้งการสร้างเม็ดสี + กระตุ้นคอลลาเจน 
  • Niacinamide (Vit B3) → ลดการส่งเม็ดสีสู่ผิวชั้นบน 
  • Tranexamic Acid → ออกฤทธิ์ตรงต่อกลไกฝ้า (ได้ผลดีในฝ้าแดด + ฝ้าฮอร์โมน) 
  • Retinoid / AHA / BHA → เร่งการผลัดเซลล์ผิวให้เม็ดสีหลุดเร็วขึ้น 

ผลลัพธ์: เห็นผลใน 2–3 เดือน, ใช้ควบคู่กับการป้องกันแดดตลอดเวลา 
ข้อดี: ปลอดภัย, ไม่มี downtime 
ข้อจำกัด: ใช้เดี่ยว ๆ มักไม่พอสำหรับฝ้าลึกหรือฝ้าที่เกิดมานานหลายปี

ระดับ 2: ทรีตเมนต์ + เลเซอร์ที่เจาะจงเม็ดสี 

เหมาะกับผู้ที่มี ฝ้า/กระชัดเจนแล้ว, ต้องการให้รอยจางไวขึ้นใน 1–2 เดือน และเริ่มมีผิวบางลงจากการโดนแดดเรื้อรัง 

โปรแกรม PicoSure Laser / Q-Switched Laser 

  • ยิงพลังงานที่จำเพาะต่อเม็ดสี → ทำให้เม็ดสีแตกและถูกกำจัดโดยร่างกาย
  • ปรับคลื่นความถี่ได้ตามชั้นความลึกของฝ้า
  • ใช้เฉพาะจุด หรือทั่วใบหน้าได้ตามรอยที่เป็น
  • ทำ 3–5 ครั้ง ทุก 2–3 สัปดาห์
  • ต้องหยุดแดดหลังทำอย่างน้อย 3–5 วัน 

โปรแกรม IPL (Intense Pulsed Light) 

  • เหมาะกับกระตื้น, จุดด่างดำจากแดด และรอยแดงร่วม
  • เป็นแสงกว้าง ไม่จำเพาะเจาะจงเท่า Pico แต่เห็นผลไว
  • เหมาะกับคนที่มีผิวผสมหลายปัญหา

ระดับ 3: เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง + ลดโอกาสกลับมาอีก 

กรณีที่ฝ้าเกิดร่วมกับ ผิวบาง แห้ง แดงง่าย มีริ้วรอย และโครงสร้างหน้าทรุด (เช่น โหนกแก้มยุบ ใต้ตาคล้ำ) จำเป็นต้องดูแลลึกกว่าการลดเม็ดสี เพราะฝ้ามัก “ฝังลึก” ตามจุดที่แสงตกกระทบบ่อยและผิวรับภาระมาก 

โปรแกรม Skin Booster (HA, PN, Salmon DNA) 

  • เติมน้ำในผิว → ทำให้ผิวแน่น เนียน และทนแดดได้ดีขึ้น
  • เหมาะกับนักกอล์ฟที่รู้สึกว่าผิวแห้งจากแดด หรือเริ่มมีริ้วรอยบาง ๆ
  • ทำ 1–2 ครั้ง ต่อปี เป็นการฟื้นฟูเชิงป้องกัน 

โปรแกรม Filler ใต้ตา + แก้มกลาง 

  • เสริมโครงสร้างที่ยุบ ให้แสงไม่ตกกระทบแรงเกิน → ฝ้าดูลดลง
  • ใช้โปรแกรมฟิลเลอร์เนื้อบางธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าบวม 

โปรแกรม Ultherapy Prime 

  • เทคโนโลยีคลื่นเสียงที่ลงลึกถึงชั้น SMAS 
  • ยกกระชับ + กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นและต้านแสงแดดได้ดีขึ้น 
  • เหมาะกับคนที่มี “ฝ้าหย่อน” คือฝ้าร่วมกับใบหน้าที่เริ่มทรุด 

โปรแกรม Thermage FLX 

  • ใช้คลื่นวิทยุปรับโครงสร้างผิวให้แน่น → ริ้วรอยน้อยลง ผิวตึงขึ้น 
  • เหมาะกับคนที่ “โครงสร้างใบหน้าหย่อน” ร่วมกับมีรอยจุดด่างดำ 

การฟื้นฟูลึกแบบนี้ ไม่ใช่แค่ลดฝ้า แต่ทำให้ “โอกาสกลับมา” น้อยลงมาก เพราะต้นเหตุอย่างผิวบาง โครงหน้าทรุด ถูกแก้ที่จุดเริ่มต้น

แล้วควรเริ่มตรงไหนก่อน?

การรักษาที่ได้ผลสำหรับฝ้า กระ จุดด่างดำ ต้องดูจาก 

  • ประเภทของปัญหา (ฝ้าตื้น, ฝ้าลึก, กระ, จุดด่างดำ ฯลฯ)
  • ลักษณะผิว (ผิวบาง, ผิวแห้ง, มีริ้วรอย, โครงสร้างทรุด)
  • ไลฟ์สไตล์ของคนไข้ (เล่นกอล์ฟกลางแดดบ่อย, ใส่หมวกไหม, กันแดดได้ดีหรือไม่) 

บางคนใช้ครีมก็หาย บางคนต้องใช้ทั้งเลเซอร์และโปรแกรมยกกระชับประกอบกัน

บทส่งท้ายจากแพทย์ผิวหนัง

ฝ้า กระ จุดด่างดำจากสนามกอล์ฟ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับผู้หญิงที่ใส่ใจในผิวหน้า การมีรอยพวกนี้สามารถบั่นทอนความมั่นใจได้มากโดยไม่รู้ตัว

ข่าวดีคือปัญหานี้ สามารถรักษาได้จริง ถ้าเข้าใจโครงสร้างและกลไกของผิวให้ลึกพอ ไม่ใช่แค่การยิงเลเซอร์หวังให้จางอย่างเดียว

หากคุณมีปัญหาเหล่านี้ หรือไม่แน่ใจว่าฝ้าของตัวเองเป็นแบบไหน การเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์กับคนไข้กลุ่มที่ออกแดดบ่อย เช่น นักกอล์ฟ หรือคนทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ จะช่วยให้วางแผนรักษาได้แม่นยำขึ้น และเห็นผลชัดเจนในระยะยาว