article

Jun 25, 2025

เปรียบเทียบชัดๆ โปรแกรม Ultherapy Prime vs โปรแกรม Ulthera รุ่นเก่าเทคโนโลยีใหม่เปลี่ยนประสบการณ์ผู้ใช้อย่างไร

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวโปรแกรม Ultherapy รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้ชื่อว่าโปรแกรม Ultherapy Prime และคำถามที่มักตามมาทันทีคือ “ต่างจากของเดิมยังไง?” “คุ้มไหมถ้าจะลองรุ่นใหม่?” หรือแม้แต่ “เจ็บน้อยลงจริงหรือเปล่า?”

โปรแกรม Ultherapy เป็นชื่อที่คนจำนวนไม่น้อยคุ้นเคยกันดีในวงการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเจาะลึกลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงขณะผ่าตัดยกกระชับ ผลลัพธ์คือใบหน้าที่ดูกระชับขึ้น โดยไม่ต้องมีแผล ไม่ต้องพักฟื้น

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวโปรแกรม Ultherapy รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้ชื่อว่าโปรแกรม Ultherapy Prime และคำถามที่มักตามมาทันทีคือ “ต่างจากของเดิมยังไง?” “คุ้มไหมถ้าจะลองรุ่นใหม่?” หรือแม้แต่ “เจ็บน้อยลงจริงหรือเปล่า?”

บทความนี้จะพาไปดูคำตอบทั้งหมด ผ่านการเปรียบเทียบทั้งในแง่เทคโนโลยี ประสบการณ์ผู้ใช้ ไปจนถึงผลลัพธ์ที่ได้รับจากทั้งสองรุ่น

หากใครเคยทำโปรแกรม Ultherapy รุ่นเก่ามาแล้ว คงพอเข้าใจว่าจุดเด่นของมันอยู่ที่การใช้คลื่นเสียงแบบโฟกัส (Micro-focused Ultrasound) ยิงพลังงานลงไปที่ชั้นลึกใต้ผิวโดยไม่กระทบผิวด้านบน และนี่คือเหตุผลที่ทำให้สามารถยกกระชับใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนยังจำได้ไม่ลืม คือ “ความรู้สึกเจ็บ” ระหว่างทำ แม้จะรู้ว่าคุ้ม แต่บางคนก็ยอมแพ้ไปกลางทาง ไม่กลับมาทำซ้ำอีกเลย

โปรแกรม Ultherapy Prime ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ ด้วยการเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่สำคัญ เช่น การกระจายพลังงานที่แม่นยำและสม่ำเสมอขึ้น การมองเห็นชั้นผิวที่คมชัดกว่าเดิม และระบบ Comfort Pulse ที่ช่วยลดความเจ็บลงได้อย่างรู้สึกได้จริง

หนึ่งในจุดเด่นของโปรแกรม Ultherapy Prime คือการมองเห็นชั้นผิวที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 40% ด้วยเทคโนโลยี DeepSEE เวอร์ชันใหม่ที่ให้ภาพละเอียดขึ้น แพทย์สามารถเห็นชั้นผิว SMAS ได้ชัดเจนและยิงพลังงานได้ตรงเป้าหมายมากกว่าเดิม ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูสม่ำเสมอมากขึ้น และลดโอกาสเกิดจุดไหม้หรือรอยแดงจากการยิงไม่ตรงจุด

ที่น่าสนใจคือ ระบบส่งพลังงานแบบใหม่ของโปรแกรม Ultherapy Prime ยังช่วยให้ผู้รับบริการ “รู้สึกเจ็บน้อยลง” โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ พลังงานยังลงได้ลึกถึงชั้น SMAS เท่าเดิม แต่มีการปรับความถี่การยิงให้สม่ำเสมอและนุ่มนวลมากขึ้น ทำให้หลายคนที่เคยกลัวโปรแกรม Ulthera กลับมาเปิดใจอีกครั้ง

เวลาการทำก็สั้นลงกว่าเดิม จากเดิมที่เคยใช้เวลาราว 90–120 นาทีในรุ่นเก่า ตอนนี้โปรแกรม Ultherapy Prime ใช้เวลาเพียงประมาณ 60–90 นาทีสำหรับใบหน้าเต็ม แถมยังไม่ต้องหยุดพักบ่อยระหว่างทำ เนื่องจากความรู้สึกไม่สบายลดลงอย่างชัดเจน

เมื่อพูดถึงผลลัพธ์โปรแกรม Ultherapy Prime ยังคงรักษาจุดแข็งของโปรแกรม Ultherapy Prime ได้อย่างดี นั่นคือการยกกระชับผิวโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน และมีผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ในบางรายเริ่มเห็นผลได้ภายใน 2–3 สัปดาห์ (รุ่นเก่ามักเริ่มเห็นที่ 4–6 สัปดาห์) และผลเต็มที่จะชัดเจนในช่วง 2–3 เดือน

ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 18–24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมและพฤติกรรมของแต่ละคน ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับหัตถการแบบไม่ผ่าตัด

อีกเรื่องที่โปรแกรม Ultherapy Prime ทำได้ดีคือ การรักษาได้ละเอียดมากขึ้น แพทย์สามารถปรับความลึกในการยิงได้เหมาะกับแต่ละบริเวณ เช่น รอบดวงตา หน้าผาก หรือแนวกรอบหน้า ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาเฉพาะจุดได้อย่างตรงจุด และลดผลข้างเคียงได้ดี

คำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือ ควรเลือก โปรแกรม Ultherapy Prime หรือไม่?

หากคุณเป็นคนที่เคยลองรุ่นเก่าแล้วรู้สึกว่าเจ็บเกินไป หรือผลลัพธ์ยังไม่ตอบโจทย์โปรแกรม Ultherapy Prime คือคำตอบที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีถูกพัฒนามาเพื่อลดข้อด้อยเดิม ๆ อย่างตรงจุด

ส่วนใครที่ยังไม่เคยทำมาก่อน แต่กำลังมองหาทางเลือกในการยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด โปรแกรม Ultherapy Prime คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่ “กล้าพูดได้เต็มปาก” ว่าเป็นผู้นำตลาด และมีงานวิจัยรับรองมากที่สุดตัวหนึ่ง

เมื่อเทียบกับโปรแกรม Thermage FLX ซึ่งใช้คลื่นวิทยุในการกระชับผิว โปรแกรม Ultherapy Prime จะมีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถเข้าถึงชั้น SMAS ได้ลึกกว่า เหมาะกับการ “ยก” มากกว่า “กระชับผิวชั้นบน” อย่างไรก็ตาม โปรแกรม Thermage อาจสบายกว่าหากเป้าหมายเน้นความเนียนเรียบ ไม่ได้ต้องการการยกมาก

หากเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี HIFU รุ่นทั่วไป โปรแกรม Ultherapy Prime จะโดดเด่นกว่าอย่างชัดเจนในด้านความแม่นยำและการมองเห็นชั้นผิว เพราะโปรแกรม HIFU ทั่วไปไม่มีระบบ visualization แบบ real-time แพทย์จึงต้องอาศัยประสบการณ์ล้วน ๆ ในการกะความลึก ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการยิงไม่ถูกชั้น

โดยสรุป โปรแกรม Ultherapy Prime ไม่ได้เป็นแค่รุ่นใหม่ของเทคโนโลยีเดิม แต่มันคือ “ประสบการณ์ใหม่” ของการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ถูกพัฒนาให้แม่นยำกว่า เจ็บน้อยกว่า เร็วกว่า และผลลัพธ์น่าประทับใจยิ่งกว่าเดิม

ในยุคที่ผู้คนต้องการดูดีโดยไม่เสียเวลาพักฟื้น โปรแกรม Ultherapy Prime คือคำตอบที่สมเหตุสมผล และน่าจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัดในอนาคตอันใกล้นี้